วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่26 31-1-13
เช้า
อาหารเช้า = 280 แคลอรี่
เข้าเเกงส้ม กับผัดมะเขือยาว = 250 แคลอรี่
เที่ยง
ซาลาเปาใส้หมู = 300 แคลอรี่
ถั่วทอด = 100 แคลอรี่
เย็น
ข้าวเเกง = 780 แคลอรี่
รวม 1710 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1710 = 599 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 79.0 กิโลกรัม
วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่25 30-1-13
เช้า
อาหารเช้า = 250 แคลอรี่
ข้าวเช้า = 140 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวเเกง = 200 แคลอรี่
เย็น
ข้าวเย็น = 180 แคลอรี่
ลูกชิ้น= 120 แคลอรี่
บ๊ะจ่าง = 100 แคลอรี่
รวม 990 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 990 = 1319 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 79 กิโลกรัม
วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่24 29-1-13
เช้า
ข้าวเเละอาหารเช้า = 250 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวหน้าเป็ด= 470 แคลอรี่
เย็น
กล้วยน้ำกระทิ = 200 แคลอรี่
รวม 920 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-920 = 1389 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 79.5 กิโลกรัม
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่23 28-1-13
เช้า
ข้าวเเละอาหารเช้า = 280 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวกับลาภหมู = 270 แคลอรี่
ขนมเม็ดมะม่วง = 50 แคลอรี่
เย็น
ขนมปัง 2 แผ่น = 130 แคลอรี่
หมูสับผัดกระเพราะ 2 ซ้อนโต๊ะ = 50 แคลอรี่
รวม 780 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-780 = 1529 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 79.7 กิโลกรัม
ข้าวเเละอาหารเช้า = 280 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวกับลาภหมู = 270 แคลอรี่
ขนมเม็ดมะม่วง = 50 แคลอรี่
เย็น
ขนมปัง 2 แผ่น = 130 แคลอรี่
หมูสับผัดกระเพราะ 2 ซ้อนโต๊ะ = 50 แคลอรี่
รวม 780 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-780 = 1529 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 79.7 กิโลกรัม
วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่22 26-1-13
เช้า
อาหารเช้า = 180 แคลอรี่
ข้าวลาภไก่ = 190 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวเเกงส้มปลากด = 180 แคลอรี่
ลอดช่อง = 200 แคลอรี่
เย็น
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ = 280 แคลอรี่
รวม 1030 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1030 = 1279 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 80.3 กิโลกรัม
วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่21 25-1-13
เช้า
อาหารเช้า = 200 แคลอรี่
ข้าวแกง = 120แคลอรี่
เที่ยง
ก๋วยเตี๋ยวเรือ = 300 แคลอรี่
เย็น
ขนม = 250 แคลอรี่
ยำเห็ดรวม = 230 แคลอรี่
รวม 1100 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1100 = 1209 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 80.3 กิโลกรัม
วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่20 24-1-13
เช้า
อาหารเช้า กาแฟ = 200 แคลอรี่
ข้าวเล็กน้อย เเกงปลาเค็ม = 240 แคลอรี่
เที่ยง
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ = 330 แคลอรี่
ลูกชิ้นย่าง 1 ไม้ = 70 แคลอรี่
เย็น
มันฝรั่งทอด = 120 แคลอรี่
รวม 960 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-960 = 1349 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 80.3 กิโลกรัม
วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556
"We are What we eat"
สุขภาพเราจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากินเข้าไป
บุคคลที่มีฐานะดีหรือผู้มีอันจะกินทั้งหลายเป็นกลุ่มคนที่โชคดี เพราะมีโอกาสในการเลือกสิ่งต่างๆ ได้มากกว่ารวมถึงเรื่องอาหารการกิน ซึ่งอาหารยอดฮิตก็มักจะเป็นอาหารที่มีไขมันมาก เช่น เนื้อสัตว์ติดมันทุกชนิด ไขมันในเครื่องในสัตว์ นม เนยที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารจานโปรด จำพวกข้าวขาหมูสูตรเด็ด ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ช่วยเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น เบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต ไขมันในเลือดสูง โรคเกาต์ เป็นต้น
ดังนั้นเราควรรู้จักการดูแลสุขภาพ รักษาคุณภาพของชีวิตด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้คุณค่าโภชนาการที่ครบถ้วน ทำให้จิตใจร่าเริงและแจ่มใส เพื่อให้เกิดดุลยภาพของร่างกาย ไม่เจ็บป่วยง่าย มีน้ำหนักร่างกายที่เหมาะสมกับรูปร่าง ผิวพรรณสดใส และมีอายุที่ยืนยาวตลอดไปคับ
บุคคลที่มีฐานะดีหรือผู้มีอันจะกินทั้งหลายเป็นกลุ่มคนที่โชคดี เพราะมีโอกาสในการเลือกสิ่งต่างๆ ได้มากกว่ารวมถึงเรื่องอาหารการกิน ซึ่งอาหารยอดฮิตก็มักจะเป็นอาหารที่มีไขมันมาก เช่น เนื้อสัตว์ติดมันทุกชนิด ไขมันในเครื่องในสัตว์ นม เนยที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารจานโปรด จำพวกข้าวขาหมูสูตรเด็ด ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ช่วยเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น เบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต ไขมันในเลือดสูง โรคเกาต์ เป็นต้น
การรับประทานอาหารที่ไม่ดีพอ หรือไม่ได้สัดส่วนกับความต้องการของร่างกาย ทำให้บุคคลเหล่านี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหล่านี้อย่างเฉียบพลัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการตกตะกอนของโคเลสเตอรอล หรือไขมันไปจับตามผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดอุดตันสกัดกั้นไม่ให้เลือดไหลเวียนเข้าสู่หัวใจ และอวัยวะส่วนปลาย อันนำไปสู่โรคร้ายนานา เมื่อร่างกายเกิดความเครียด ก็จะทำให้เกิดการเสียสมดุลระหว่างการสร้างและการทำลายที่เรียกว่า อนุมูลอิสระหรือ Free Radical โดยมีการสร้างมากกว่าการทำลาย ซึ่งเป็นสารที่มีการสร้างมากกว่าการทำลาย และมีความไวต่อการทำปฏิกิริยาทางชีวเคมี เข้าทำปฎิกิริยาโจมตีอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น โจมตีผิวหนังทำให้เส้นใยคอลลาเจน และอิลาสติน ซึ่งเป็นสารที่ให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังเกิด "คลอสลิ้ง" เสียความยืดหยุ่นทำให้เกิดความกระด้าง เหี่ยวย่น โจมตีเลนส์นัยน์ตา ทำให้ขุ่นมัวกลายเป็นต้อกระจก โจมตี DNA และ RNA ซึ่งเป็นสารควบคุมพันธุกรรม ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ (Mutation) หรือถ้าโชคร้ายไม่กลายพันธู์แต่กลายเป็นเซลล์เนื้อร้ายก็คือ เป็น "มะเร็ง"
จากประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า วิธีการรักษาโรคมะเร็งที่แพทย์ส่วนใหญ่ปฏิบัติกันอยู่ ไม่ว่าจะโดยการผ่าตัด หรือทำเคมีบำบัดนั้น ไม่ใช่วิธีการรักษาที่ถูกต้อง เพราะวิธีการดังกล่าวไม่ได้ทำให้คนไข้หายจากโรค ในทางกลับกัน คนไข้มะเร็งยังคงตายไปเรื่อยๆ ในขณะที่จำนวนคนไข้ใหม่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เราจึงควรหันมามองที่จุดเริ่มของโรคที่แท้จริง ก็คือ การบริโภคนั่นเอง จนเป็นศาสตร์หนึ่งที่มีการเรียนรู้ และเผยแพร่มากขึ้น ที่เรียกว่า " โภชนบำบัด"
ควบคุมแคลอรี่ วันที่19 23-1-13
เช้า
อาหารเช้า = 140 แคลอรี่
ข้าวราดเเกงผัดเห็ด = 180 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวเเกงส้มกุ้ง = 200 แคลอรี่
เย็น
ยำอกไก่ = 245 แคลอรี่
ขนมสั่วใส้ใข่เค็ม = 80 แคลอรี่
รวม 845แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 845 =1464 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง ไม่ได้ช่าง กิโลกรัม
วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่18 22-1-13
เช้า
อาหารเช้า = 200 แคลอรี่
ข้าวคลุกกะปิ ครึ่งจาน = 250 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวคลุกกะปิ ครึ่งจาน = 250 แคลอรี่
เย็น
เต้าคั่ว = 130 แคลอรี่
รวม 830 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-830 = 1479 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 80.9 กิโลกรัม
วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่17 21-1-13
เช้า
อาหารเช้ารวมข้าว กาแฟ ขนมใข่เค็ม = 350 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวปลาเกลือ = 240 แคลอรี่
เย็น
มะเขือเทศ = 100 แคลอรี่
ยำเห็ด 3 อย่าง = 180 แคลอรี่
รวม 870 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-870 = 1490 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง ไม่ได้ช่าง กิโลกรัม
วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556
ปริมาณแคลอรี่ในอาหารประเภทต่างๆ
การมีความรู้เรื่องปริมาณแคลอรี่ในอาหารสามารถช่วยให้คนเราเลือกรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ได้ เรามาดูกันว่าอาหารแต่ละอย่างด้านล่างให้ปริมาณแคลอรี่แตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก สามารถนำมาใช้ในการกำหนดรายการอาหารที่จะรับประทานในแต่ละวันได้อีกด้วย
ประเภทอาหารจานเดียว
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน (แคลอรี) |
ข้าวมันไก่ | 300 | 596 |
ข้าวหมูแดง | 320 | 540 |
ข้าวขาหมู | 289 | 438 |
ข้าวไข่พะโล้ | 316 | 577 |
ข้าวหมกไก่ | 316 | 534 |
ข้าวผัดหมูใส่ไช่ | 315 | 557 |
ข้าวผัดกะเพราไก่ | 293 | 554 |
ข้าวคลุกกะปิ | 296 | 614 |
ข้าวยำปักษ์ใต้ | 189 | 248 |
ข้าวราดแกงเขียวหวานไก่ | 318 | 483 |
ข้าวหมูกรอบ | 404 | 587 |
โจ๊กไก่ | 415 | 253 |
โจ๊กหมู | 415 | 231 |
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ | 381 | 417 |
ราดหน้าเส้นใหญ่หมู | 354 | 397 |
ราดหน้าเส้นใหญ่ไก่ | 354 | 385 |
เส้นใหญ่เย็นตาโฟน้ำ | 494 | 352 |
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งหมู | 235 | 530 |
ผัดซีอิ้วหมูใส่ไข่ | 350 | 679 |
ผัดไทยใส่ไข่ | 244 | 577 |
หอยทอดใส่ไข่ | 197 | 428 |
กวยจั๊บน้ำใส | 347 | 259 |
กวยจั๊บน้ำข้น | 346 | 279 |
กระเพาะปลา | 327 | 170 |
ขนมผัดกาดใส่ไข่ | 298 | 582 |
เส้นใหญ่น้ำหมู | 390 | 278 |
เส้นเล็กแห้งหมู | 265 | 488 |
เส้นหมี่น้ำเนื้อเปื่อย | 404 | 298 |
เส้นหมี่เนื้อสด | 380 | 256 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำ | 380 | 256 |
เส้นหมี่ลูกชิ้นเนื้อวัว | 447 | 226 |
ขนมจีนน้ำยา | 350 | 330 |
ขนมจีนน้ำพริก | 355 | 230 |
ขนมจีนน้ำเงี้ยว | 357 | 240 |
ก๋วยเตี๋ยวน้ำเป็ด | 380 | 330 |
ก๋วยเตี๋ยวหลอด | 216 | 266 |
ก๋วยเตี๋ยวแกง | 350 | 454 |
ประเภทอาหารฟาสฟู้ด
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
แฮมเบอร์เกอร์ไก่ | 147 | 450 |
แฮมเบอร์เกอร์เนื้อ | 150 | 385 |
แฮมเบอร์เกอร์ปลา | 147 | 419 |
แซนด์วิชไก่ | 122 | 287 |
แซนด์วิชแฮม | 108 | 235 |
พิซซ่าหน้าซีฟู้ดถาดกลาง | 347 | 781 |
พิซซ่าหน้ารวมมิตรถาดกลาง | 373 | 876 |
ฮอตด็อก | 149 | 398 |
มันฝรั่งทอดขนาดกลาง | 94 | 314 |
หอมทอด | 102 | 329 |
นักเก็ต | 6 ชิ้น | 277 |
โคลสลอว์ | 1 ถ้วยเล็ก | 129 |
ไก่ทอด (ต้นตำรับ) | 1 ชิ้น | 103 |
มันบด | 1 ถ้วยเล็ก | 79 |
ประเภทอาหารว่าง
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
เปาะเปี๊ยะทอดและน้ำจิ้ม | 142 | 317 |
เกี๊ยวกรอบและน้ำจิ้ม | 84 | 287 |
เต้าหู้ทอด | 136 | 294 |
เผือกทอด | 122 | 406 |
ทอดมันข้าวโพด | 127 | 339 |
โดนัท 1 ชิ้น | 25 | 95 |
ขนมครก 2 ฝา | 22 | 97 |
ปาท่องโก๋ 1 คู่ | 20 | 124 |
ประเภทขนมหวาน
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
กล้วยบวชชี | 166 กรัม | 255 |
เผือกน้ำกะทิ | 163 กรัม | 256 |
ฟักทองแกงบวด | 162 กรัม | 369 |
ข้าวเม่าทอด | 2 ชิ้น | 416 |
สังขยาฟักทอง | 1 ชิ้นเล็ก | 280 |
เม็ดขนุน | 4 เม็ด | 164 |
ถั่วแดงหลวงแกงบวด | 202 กรัม | 220 |
มันแกงบวด | 1 ถ้วยเล็ก | 184 |
ขนมกล้วย | 1 ชิ้น | 60 |
ข้าวโพดคลุก | 1 ถ้วยเล็ก | 156 |
ขนมเปียกปูน | 1 ชิ้น | 159 |
สาคูเปียก | 1 ถ้วยเล็ก | 165 |
กล้วยเชื่อม | 1 ผล | 89 |
ฟักทองเชื่อม | 2 ชิ้น | 169 |
ข้าวเหนียวทุเรียน | 1 ถ้วยเล็ก | 287 |
ข้าวเหนียวดำเปียก | 1 ถ้วยเล็ก | 204 |
ข้าวเหนียวมะม่วง | 1 ถ้วยเล็ก | 297 |
ถั่วแปบ | 1 ชิ้น | 132 |
ข้าวเหนียวสังขยา | 1 ห่อ | 225 |
ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง – ปลา | 1 ห่อ | 180 |
ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ | 1 ถ้วยเล็ก | 320 |
ทับทิมกรอบ | 185 กรัม | 276 |
ลอดช่องน้ำกะทิ | 111 กรัม | 167 |
ถั่วดำแกงบวด | 154 กรัม | 167 |
กล้วยทอด | 125 กรัม | 406 |
บัวลอยน้ำกะทิ | 1 ถ้วยเล็ก | 225 |
ทองหยิบ | 1 ชิ้น | 105 |
ฝอยทอง | 1 แพ | 150 |
ลูกเดือยเปียก | 180 กรัม | 159 |
ปลากริมไข่เต่า | 1 ถ้วยเล็ก | 263 |
ซ่าหริ่ม | 160 กรัม | 217 |
ขนมต้มขาว | 5 ลูก | 147 |
เต้าส่วน | 1 ถ้วยเล็ก | 217 |
ขนมชั้น | 1 ชิ้น | 207 |
ตะโก้แห้ว | 2 ชิ้น | 137 |
ขนมหม้อแกงถั่ว | 1 ชิ้น | 180 |
ข้าวเหนียวเปียก | 1 ถ้วยเล็ก | 130 |
วุ้นกะทิ | 1 ชิ้น | 110 |
ขนมสาลี่ | 1 ชิ้น | 116 |
ไข่หงส์ | 1 ชิ้น | 16 |
สาเกเชื่อม | 1 ชิ้น | 250 |
ขนมน้ำดอกไม้ | 1 ชิ้น | 25 |
ไอศกรีมโคน (ทุกรส) | 1 โคน | 130 |
ไอศกรีมแท่ง | 1 แท่ง | 205 |
ช็อกโกแลต | 100 กรัม | 242 |
ช็อกโกแลตผสมถั่ว | 50 กรัม | 257 |
เค้กช็อกโกแลต | 100 กรัม | 275 |
บราวนี่ | 100 กรัม | 352 |
เค้กผลไม้ | 100 กรัม | 250 |
เค้กวานิลลา | 100 กรัม | 365 |
มัฟฟิน | 100 กรัม | 242 |
ประเภทเครื่องดื่ม
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน (แคลอรี) |
เบียร์ | 100 มล. | 44 |
ค็อกเทล | 114 มล. | 140 |
เหล้า | 28 มล. | 75 |
ไวน์ | 114 มล. | 125 |
เครื่องดื่มชูกำลัง | 100 มล. | 46 |
โกโก้ร้อน | 1 ถ้วย | 165 |
กาแฟดำ | 1 ถ้วย | 0 |
กาแฟคาปูชิโนไม่ใส่น้ำตาล | 1 ถ้วย | 30 |
กาแฟเย็น | 1 ถ้วย | 248 |
น้ำส้มคั้น | 100 มล. | 40 |
น้ำนมถั่วเหลือง | 320 มล. | 140 |
น้ำมะตูม | 320 มล. | 247 |
น้ำสัปปะรด | 100 มล. | 40 |
น้ำมะเขือเทศ | 100 มล. | 17 |
น้ำองุ่น | 100 มล. | 34 |
น้ำแอปเปิล | 100 มล. | 40 |
น้ำมะนาว | 100 มล. | 27 |
น้ำอัดลม | 100 มล. | 41 |
น้ำอัดลม (ไดเอต) | 100 มล. | 0.5 |
นมเปรี้ยว | 250 ซีซี | 210 |
ชาเขียวรสต้นตำรับ | 250 ซีซี | 110 |
นมรสจืด | 100 มล. | 50 |
นมรสโกโก้ | 100 มล. | 71 |
นมรสหวาน | 100 มล. | 51 |
ประเภทอาหารประจำวัน
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
ไข่ต้ม | 1 ฟอง | 80 |
ไข่ทอด | 1 ฟอง | 135 |
ไข่เจียว | 1 ฟอง | 140 |
ไข่แดงดิบ | 1 ฟอง | 60 |
ไข่ขาวดิบ | 1 ฟอง | 20 |
ข้าวสุก | 1 จาน | 164 |
ขนมปังโฮลวีต | 100 กรัม | 232 |
ขนมปังผสมเมล็ดธัญพืช | 100 กรัม | 249 |
ขนมปังสีขาว | 100 กรัม | 246 |
ซีเรียล | 45 กรัม | 169 |
คอร์นเฟลก | 30 กรัม | 114 |
เนย / มาร์การีน | 100 กรัม | 700 |
เนยแข็ง | 28 กรัม | 105 |
เต้าหู้ | 100 กรัม | 128 |
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ | 100 กรัม | 96 |
โยเกิร์ตรสอื่นๆ | 100 กรัม | 135 |
แยม | 10 กรัม | 29 |
วุ้นเส้น | 50 กรัม | 170 |
ประเภทเนื้อสัตว์และปลา
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
เนื้อวัว | 280 กรัม | 720 |
เนื้อหมูย่างไม่ติดมัน | 1 จาน | 300 |
เนื้อหมูย่างติดมัน | 1 จาน | 400 |
เบคอนหมู | 28 กรัม | 118 |
ไส้กรอกหมู | 100 กรัม | 350 |
ลูกชิ้นหมู | 100 กรัม | 315 |
ลูกชิ้นเนื้อ | 3 ลูกเล็ก | 366 |
เนื้อไก่ย่างไม่ติดหนัง | 100 กรัม | 212 |
เป็ดย่างไม่ติดหนัง | 280 กรัม | 540 |
เป็ดย่างติดหนัง | 280 กรัม | 960 |
ปู | 28 กรัม | 35 |
กุ้งมังกร (ลอบสเตอร์) | 100 กรัม | 124 |
กุ้งทะเล | 28 กรัม | 30 |
กุ้งแม่น้ำ | 28 กรัม | 30 |
ปลาไหล | 100 กรัม | 167 |
ปลาหมึกกล้วย | 100 กรัม | 75 |
ปลาทูน่า | 100 กรัม | 209 |
ปลาแซลมอน (รมควัน) | 100 กรัม | 143 |
หอยแมลงภู่ | 1 ตัว | 9 |
หอยนางรม (สด) | 1 ตัว | 12 |
หอยแครง | 100 กรัม | 103 |
ประเภทผักและผลไม้
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
แอปเปิล (ขนาดกลาง) | 1 ผล | 60 |
กล้วย (ขนาดกลาง) | 1 ผล | 95 |
มะพร้าว | 28 กรัม | 100 |
องุ่น | 1 ถ้วย | 90 |
ฝรั่ง (ขนาดกลาง) | 1 ผล | 30 |
มะนาว (ขนาดกลาง) | 1 ผล | 20 |
ส้มแมนดาริน | 1 ผลใหญ่ | 40 |
มะม่วง (ขนาดกลาง) | 1 ผล | 90 |
ส้ม | 1 ผลใหญ่ | 60 |
มะละกอสุก (ขนาดกลาง) | 1 ผล | 100 |
สัปปะรด | 1 ซีก | 45 |
มะเขือเทศ | 1 ลูก | 20 |
แตงโม | 1 ซีก | 50 |
หน่อไม้ฝรั่ง | 8 อัน | 25 |
ถั่วแดง | 100 กรัม | 16 |
ข้าวโพดอ่อน | 100 กรัม | 16 |
ถั่วงอก | 28 กรัม | 8 |
ลูกเดือย | 28 กรัม | 92 |
ถั่วเหลือง | 28 กรัม | 108 |
ถั่วเขียว | 100 กรัม | 105 |
บร็อกโคลี | 100 กรัม | 23 |
กะหล่ำปลี | 28 กรัม | 6 |
พริกหยวกเขียว | 1 หัว | 12 |
พริกหยวกแดง | 1 หัว | 26 |
แครอต | 1 หัว | 30 |
ดอกกะหล่ำ | 100 กรัม | 14 |
ต้นหอม= | 28 กรัม | 10 |
แตงกวา | 1 หัว | 30 |
มะเขือยาว | 1 หัว | 48 |
กระเทียม | 1 กลีบ | 3 |
ขิง | 28 กรัม | 15 |
ผักกาดแก้ว | 3 ใบใหญ่ | 7 |
เห็ด | 28 กรัม | 4 |
หัวหอม | 1 หัว | 40 |
มันฝรั่งต้ม (ปอกเปลือก) | 1 หัว | 85 |
ฟักทอง | 100 กรัม | 12 |
เผือก | 1/2 ถ้วย | 105 |
แห้ว | 28 กรัม | 17 |
ใบสะระแหน่ | 28 กรัม | 4 |
พริก (ขนาดกลาง) | 1 เม็ด | 2 |
ประเภทขนมขบเคี้ยว
ชนิดอาหาร | ปริมาณ (กรัม) | พลังงาน(แคลอรี) |
มันฝรั่งทอด (ชิปส์) | 100 | 535 |
ถั่วลิสงทอดใส่เกลือ | 28 | 162 |
เมล็ดแตงโม | 28 | 148 |
การคำนวณความต้องการพลังงานต่อวัน
การคำนวณความต้องการพลังงานต่อวัน
การลดน้ำหนัก จะต้องมีการกำหนดอาหารที่จะบริโภคเข้าไป เพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างรวดเร็วและได้ผล นอกจากการลดน้ำหนักแล้ว การคำนวณหาปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน ยังช่วยให้คุณรับรู้ถึงสุขภาพร่างกาย ตลอดจนกิจกรรมที่ทำ ว่าควรมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ปริมาณพลังงาน(calories) ที่ร่างกายต้องการต่อวัน สามารถคำนวณได้จากสูตรนี้
หมายเหตุ : อัตราความต้องการพลังงาน ดูจากตารางด้านล่าง
IBW คือ การคำนวณหาน้ำหนักตัวมาตรฐาน ( วิธีการคำนวณหา IBW)
ตัวอย่าง หญิงอายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน สูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 58 กิโลกรัม
IBW = ( 167 - 100 ) - ( 0.1*(167-100) )
= 67 - 6.7 = 60.3
= 60 กิโลกรัม
อัตราความต้องการพลังงาน ดูจากตารางด้านล่าง สำหรับอาชีพแม่บ้าน ถือเป็นงานเบา และค่า IBW อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าปกติ (ค่า IBW ที่คำนวณได้คือ 60) ดังนั้นอัตราความต้องการพลังงาน คือ 35 กิโลแคลอรี่
เพราะฉะนั้นพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน = 35 x 60 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
= 2100 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
ความต้องการพลังงานต่อวัน = อัตราความต้องการพลังงาน x IBW
หมายเหตุ : อัตราความต้องการพลังงาน ดูจากตารางด้านล่าง
IBW คือ การคำนวณหาน้ำหนักตัวมาตรฐาน ( วิธีการคำนวณหา IBW)
ตัวอย่าง หญิงอายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน สูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 58 กิโลกรัม
IBW = ( 167 - 100 ) - ( 0.1*(167-100) )
= 67 - 6.7 = 60.3
= 60 กิโลกรัม
อัตราความต้องการพลังงาน ดูจากตารางด้านล่าง สำหรับอาชีพแม่บ้าน ถือเป็นงานเบา และค่า IBW อยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าปกติ (ค่า IBW ที่คำนวณได้คือ 60) ดังนั้นอัตราความต้องการพลังงาน คือ 35 กิโลแคลอรี่
เพราะฉะนั้นพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน = 35 x 60 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
= 2100 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
- งานหนัก ได้แก่ งานเกษตรกรรม กรรมกรแบกหาม ช่างก่อสร้าง ทหารประจำการ ฯ
- งานหนักปานกลาง ได้แก่ นักศึกษา พนักงานห้างสรรพสินค้า แม่บ้านที่ไม่มีเครื่องผ่อนแรง ฯ
- งานเบา ได้แก่ งานในสำนักงาน ครู อาจารย์ แพทย์ และงานบ้านที่มีเครื่องผ่อนแรง ฯ
อัตราความต้องการพลังงานต่อวันของผู้ใหญ่และกิจกรรมที่ทำ กำหนดได้จาก
น้ำหนักที่เป็นจริงเปรียบเทียบกับน้ำหนักที่ควรจะเป็น | งานหนัก (กิโลแคลอรี่/ก. ก./วัน) | งานหนักปานกลาง(กิโลแคลอรี่ / ก. ก. /วัน) | งานเบา (กิโลแคลอรี่ / ก. ก. /วัน) |
น้ำหนักน้อยกว่าปกติ | 45 - 50 | 40 | 35 |
น้ำหนักปกติ | 40 | 35 | 30 |
น้ำหนักมากกว่าปกติ | 35 | 30 | 15 - 20 |
http://diet-food-goodhealth.blogspot.com
ควบคุมแคลอรี่ วันที่16 18-1-13
เช้า
ขนมปังช๊อคโคเล็ด = 280 แคลอรี่
เที่ยง
ขนมปังไส้กรอก = 400 แคลอรี่
น้ำอัดลม = 160 แคลอรี่
เย็น
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น = 280 แคลอรี่
รวม 1120 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1120 = 1189 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 81.4 กิโลกรัม
วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่15 17-1-13
เช้า
ขนมปัง = 80 แคลอรี่
เที่ยง
ขนมปังสังขยา = 120 แคลอรี่
น้ำผลไม้รวม = 160 แคลอรี่
เย็น
ข้าวแกง = 240 แคลอรี่
รวม 600 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-600 = 1709 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 81.4 กิโลกรัม
ขนมปัง = 80 แคลอรี่
เที่ยง
ขนมปังสังขยา = 120 แคลอรี่
น้ำผลไม้รวม = 160 แคลอรี่
เย็น
ข้าวแกง = 240 แคลอรี่
รวม 600 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-600 = 1709 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 81.4 กิโลกรัม
วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่14 16-1-13
เช้า
ชุดอาหารเช้า =120 แคลอรี่
ข้าวเเกงปลา = 170แคลอรี่
เที่ยง
น้ำโสม = 80 แคลอรี่
ข้าวหมูทอด = 190 แคลอรี่
เย็น
น้ำมะพร้าวอ่อน = 74 แคลอรี่
ข้าวหมูทอด = 120 แคลอรี่
ข้าวต้มกุ๊ย = 230 แคลอรี่
รวม แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-794 = 1515 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 81.5 กิโลกรัม
วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่13 15-1-13
เช้า
ชุดอาหารเช้า ไส้กรอก กะหรี่พัพ กาแฟ = 175 แคลอรี่
ข้าวเเกงส้มหัวมะพร้าว = 200 แคลอรี่
กระทิงเเดง = 80 เเคลอรี่
เที่ยง
กล้วย2 ลูก = 60 แคลอรี่
ข้าวแกง = 150 แคลอรี่
เย็น
เมี่ยงหมู = 150 แคลอรี่
รวม 815 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309 - 815 = แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 82.2 กิโลกรัม
วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่12 14-1-13
เช้า
ชุดอาหารเช้า ใข่ดาวน้ำ ไส้กรอก กะหรี่พัพ กาแฟ = 250 แคลอรี่
ข้าวน้ำพริก = 150 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวสวย ปลาสำลีทอด = 280 แคลอรี่
เย็น
อกไก่อบกระเทียมพริกไทย = 115แคลอรี่
รวม 795 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 795 = 1514 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 82.4 กิโลกรัม
วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่11 12-1-13
เช้า
ขนมจีบสามลูก = 90 แคลอรี่
กาแฟ = 30 แคลอรี่
ข้าวปลานิล = 120 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวแกง = 250 แคลอรี่
เย็น
ขนมจีนแกงไก่ = 300 แคลอรี่
รวม 790 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-790 = 1519 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 82.8 กิโลกรัม
วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่10 11-1-13
เช้า
ใข่ดาว = 75 แคลอรี่
กระทิงเเดง = 80 แคลอรี่
ข้าวปลาเค็ม = 120 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวแกงส้มปลา = 180 แคลอรี่
ปลาจาราเม็ดทอดเกลือตัวเล็ก = 200 แคลอรี่
ชมพู่ 2 ลูก = 60 แคลอรี่
เย็น
ส้มตำไก่ย่าง ไส้กรอก= 550 แคลอรี่
รวม 1275 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 1275 = 1025แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 82.8 กิโลกรัม
วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่9 10-1-13
เช้า
ไส้กรอก 20 กรัม = 100 แคลอรี่
ข้าวเเกงใตปลา = 120 แคลอรี่
กระทิงแดง = 80 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวใข่ต้ม = 130 แคลอรี่
เย็น
ส้มตำ = 80 แคลอรี่
อกไก่ต้ม = 60 แคลอรี่
ข้าวเกรียบ = 50 แคลอรี่
รวม 620แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 620 = 1689 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 82.9 กิโลกรัม
วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่8 9-1-13
เช้า
ไส้กรอกอีสาน ผักกาด = 175 แคลอรี่
ข้าวเเกงต้มหมู = 200 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวแกงส้มปลานิล = 200 แคลอรี่
น้ำ C120 = 80 แคลอรี่
เย็น
ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้น = 300แคลอรี่
ชาร้อนนม 1 ช้อน = 120 แคลอรี่
รวม 1075 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309 - 1075 =1234 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83 กิโลกรัม
วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่7 8-1-13
เช้า
กะหรี่พัฟ 1 ชิ้นเล็ก = 120 แคลอรี่
ใข่ลวกเบอร์ 4 = 50 แคลอรี่
น้ำพร่องมันเนยตราลูกหมี = 60 แคลอรี่
ข้าวเเกงส้มปลาดุกทอดมัน = 250 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวกับต้มหมูปลาเค็ม = 180 แคลอรี่
เย็น
ปลาซาบะย่าง ผักกาดเเก้วน้ำจิ้มเเจ่ว = 280 แคลอรี่
รวม 940 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-940= 1639 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.3 กิโลกรัม
วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่6 7-1-13
เช้า
ข้าวกับต้มยำเครื่องในหมู = 150 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวแกงปลาซ่อน = 340 แคลอรี่
เย็น
3 ชิ้นยาวมะละกอ = 160 แคลอรี่
อกไก่อบครึ่งอก = 200 เเคลอรี่
รวม 650 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-850 = 1459 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.5 กิโลกรัม
วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่5 6-1-13
เช้า
ชาร้อน = 120 แคลอรี่
ปาทิ่งโก๋ 1 คู่เล็ก = 88 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวคลุกกะปิ = 410 แคลอรี่
หมูย่าง 3 ไม้ = 150 แคลอรี่
เย็น
แอปเปิ้ล1ผล= 60 แคลอรี่
ชาเขียว1 เเก้ว = 40 แคลอรี่
รวม 868 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-868 = 1441 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.7 กิโลกรัม
เที่ยง
ข้าวคลุกกะปิ = 410 แคลอรี่
หมูย่าง 3 ไม้ = 150 แคลอรี่
เย็น
แอปเปิ้ล1ผล= 60 แคลอรี่
ชาเขียว1 เเก้ว = 40 แคลอรี่
รวม 868 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-868 = 1441 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.7 กิโลกรัม
วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่4 5-1-13
เช้า
กะหรี่พัฟ 1 ชิ้นเล็ก = 120 แคลอรี่
กะหรี่พัฟ 1 ชิ้นเล็ก = 120 แคลอรี่
ข้าวเเกงส้มกุ้ง = 120 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวต้มยำหมู = 240 แคลอรี่
ทองหยอด 3 ลูกเล็ก = 150 แคลอรี่
เย็น
ข้าวราดเนื้อต้ม = 440 แคลอรี่
มาฟฟิน = 60 แคลอรี่
รวม 1130 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 1130 = 1179 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.8 กิโลกรัม
เที่ยง
ข้าวต้มยำหมู = 240 แคลอรี่
ทองหยอด 3 ลูกเล็ก = 150 แคลอรี่
เย็น
ข้าวราดเนื้อต้ม = 440 แคลอรี่
มาฟฟิน = 60 แคลอรี่
รวม 1130 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309- 1130 = 1179 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.8 กิโลกรัม
วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่3 4-1-13
เช้า
ข้าวเหนียวกุนเชียง 2 ชิ้นเล็ก = 80 แคลอรี่
ข้าวกับต้มยำหมู = 340 แคลอรี่
เที่ยง
มะเขือเทศคลุกน้ำตาล 20 กรัม = 60 แคลอรี่
ข้าวกับต้มยำหมู = 340 แคลอรี่
เย็น
ผัดไทยธรรมดา = 380 แคลอรี่
รวม 1200 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1200 = 1109 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.9 กิโลกรัม
เที่ยง
มะเขือเทศคลุกน้ำตาล 20 กรัม = 60 แคลอรี่
ข้าวกับต้มยำหมู = 340 แคลอรี่
เย็น
ผัดไทยธรรมดา = 380 แคลอรี่
รวม 1200 แคลอรี
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1200 = 1109 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 83.9 กิโลกรัม
วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556
ควบคุมแคลอรี่ วันที่2 3-1-13
เช้า
กล้วยเล๊บมือ 3 ผล = 90 แคลอรี่
เงาะ 4 ผล = 60 แคลอรี่
ข้าวเเกงต้มปลากะพง = 200 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวไก่ทอด1น่อง = 220 แคลอรี่
ลอดช่อง 1 ถ้วยเล็ก = 200 แคลอรี่
เย็น
ไอศครีม 1 1/2 ชิ้น = 375 แคลอรี่
ยำวุ้นเส้น = 80 แคลอรี่
รวม 1200 แคลอรี่
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1200 = 1109 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 84 กิโลกรัม
กล้วยเล๊บมือ 3 ผล = 90 แคลอรี่
เงาะ 4 ผล = 60 แคลอรี่
ข้าวเเกงต้มปลากะพง = 200 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวไก่ทอด1น่อง = 220 แคลอรี่
ลอดช่อง 1 ถ้วยเล็ก = 200 แคลอรี่
เย็น
ไอศครีม 1 1/2 ชิ้น = 375 แคลอรี่
ยำวุ้นเส้น = 80 แคลอรี่
รวม 1200 แคลอรี่
ดังนั้นวันนี้จะเผาพลังงานไปได 2309-1200 = 1109 แคลอรี่
น้ำหนักที่ช่าง 84 กิโลกรัม
ควบคุมแคลอรี่ วันที่1 2-1-13
เช้า
ข้าวสวยกับแกงส้ม = 220 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวสวยทอดมันสองชิ้น = 300 แคลอรี่
เย็น
ทานยำเห็ดรวม =130 แคลอรี่
กระทิงเเดงครึ่งขวด = 40 แคลอรี่
ชมพู2 ลูก = 50 แคลอรี่
ถั่วต้ม50 กรัม = 50 แคลอรี่
รวม 790 แคลอรี่
ดังนั้นวันนี้จะเผาผลาญ พลังงานไปได้ 2309-790=1519 แคลอรี่
น้ำหนักที่ชั่ง 84.1 กิโลกรัม
ข้าวสวยกับแกงส้ม = 220 แคลอรี่
เที่ยง
ข้าวสวยทอดมันสองชิ้น = 300 แคลอรี่
เย็น
ทานยำเห็ดรวม =130 แคลอรี่
กระทิงเเดงครึ่งขวด = 40 แคลอรี่
ชมพู2 ลูก = 50 แคลอรี่
ถั่วต้ม50 กรัม = 50 แคลอรี่
รวม 790 แคลอรี่
ดังนั้นวันนี้จะเผาผลาญ พลังงานไปได้ 2309-790=1519 แคลอรี่
น้ำหนักที่ชั่ง 84.1 กิโลกรัม
วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556
มาลดน้ำหนักกันเถอะ
ผม POC อายุ 24 ปี น้ำหนัก 84 ส่วนสูง 183 น้ำหนักเป้าหมาย 72 กิโลกรัม วันที่เริ่ม 1 ม.ค. 56 - 30 มี.ค. 56 ต้องการลด 12 กิโลกรัม ด้วยการ การออกกำลังกายเเละควบคุมพลังงานแคลอรี่ไปด้วย
ลงชื่อ นาย Poc
ค่าพลังงาน BMR ของผม 2309 แคลอรี่ หลักการคือต้องทานให้น้อยกว่าให้ได้ คับ
ค่าน้ำหนักมาตราฐานของผม = 74.7 กิโลกรัม
การทานอาหารของผมก่อนลด
เช้า 7.30
จะต้องดื่มกาแฟ 3 in 1 มีค่าแคลอรี่้ = 180 แคลอรี่ ถ้าซื้อจาก 7-11 = 280 แคลอรี่
ปาท่องโก๋ หรือ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ใข่ดาว หรือ ขนมปัง แต่ละวันไม่เหมือนกัน
ปาท่องโก๋ 1 ตัว = 88 แคล
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง = 340 แคล
ใข่ดาว =120 แคล ใข่ลวก =75 เเคล
ขนมปังพาร์มเฮ้า 2 เเผ่น = 140 แคล
รวม 7.30 จะทานประมาณ 300-600 แคล
เช้า 9.00-10.00
ทานข้าวเเกง เเกงจะไม่ซ้ำกันในเเต่ละวัน อาทิเช่น เเกงเลียงแกงส้มต้มยำขาหมู ขาหมูพะโล้ หมูเปี้ยวกะทิ เเกงไก่ขมิ้น ปลาทอด หมูทอด ประมาณนี้ ไม่เหมือนกันในเเต่ละวัน ประมาณ 400-600 เเคล
เที่ยง 13.00-14.00
ทานข้าวเเกง เเกงจะไม่ซ้ำกันในเเต่ละวัน อาทิเช่น เเกงเลียงแกงส้มต้มยำขาหมู ขาหมูพะโล้ หมูเปี้ยวกะทิ เเกงไก่ขมิ้น ปลาทอด หมูทอด ประมาณนี้ ไม่เหมือนกันในเเต่ละวัน ประมาณ 400-600 เเคล
เย็น 18.00-19.00
ทานข้าวเเกง เเกงจะไม่ซ้ำกันในเเต่ละวัน อาทิเช่น เเกงเลียงแกงส้มต้มยำขาหมู ขาหมูพะโล้ หมูเปี้ยวกะทิ เเกงไก่ขมิ้น ปลาทอด หมูทอด ประมาณนี้ ไม่เหมือนกันในเเต่ละวัน หรือบางวันจะไปทานอาหารนอกบ้าน เช่นของชอบยาโยอิ ซูกิชิ โออิชิ ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง hotpot KFC พิษษ่าเเต่ละวันไม่เหมือนกัน ประมาณ 1000-1800 เเคล ในมื้อเดียว
ยังไม่รวมขนมจุกจิ๊กระหว่างวัน เช่น เลย์ เทสโต้ นมขวด น้ำเต้าหู้ ขนมหวานต่างๆที่หาซื้อได้ เเละพวกผลไม้รถเข็น ที่บ่อยๆ ก็ส้ำตำไก่ยาง ซึ้งไม่เกี่ยวกับอาหารมื้อหลักๆ ประมาณ 1000-1400
ดังนั้น ปริมาณการรับประทานอาหารของผม จะประมาณ 2700-3500 ต่อวัน
เมื่อร่างกายเผาผลาญได้เเค่ 2000-2309 จึงทำให้เกินการสะสมของอาหารที่ย่อยไม่หมด จึงเกินเป็นใขมันส่วนเกินมาสะสมอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายทำให้ผมอ้วน เชี่ยๆ มีน้ำหนักอยู่ประมาณ 112-113 ก่อนลด
ดูพุงสิ
เเขนใหญ่
ลงชื่อ นาย Poc
ว่าด้วยร่างกายของคนเราจะประกอบไปด้วย กล้ามเนื้อ ใขมัน น้ำ กระดูก เลือดรวมกัน 1 กิโลกรัมของคนเราจะเท่ากับพลังงาน 7,700 แคลอรี่ จากสูตร
พลังงานเข้า>พลังงานออก = น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น
พลังงานเข้า<พลังงานออก = น้ำหนักตัวลดลง
ดังนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าร่างกายเรา เผาพลังงานทิ้งวันละกี่แคลลอรี่
BMR คือค่าพลังงานที่ร่างกายต้องการในเเต่ละวัน จากสูตร
ผู้ชาย BMR = 66 + (13.7 X น้ำหนักตัว กก.) + ( 5 X ส่วนสูงเป็น ซม. ) - ( 6.8 X อายุ )
ผู้หญิง BMR = 665 + (9.6 X น้ำหนักตัว กก.) + ( 1.8 X ส่วนสูงเป็น ซม. ) - ( 4.7 X อายุ )
ส่วนมากจะอยู่ประมาณ 2000-2200 แคลอรี่ต่อวัน
โปรแกรมของผมก็คือ พลังงานเข้า<พลังงานออก = น้ำหนักตัวลดลง คือการควบคุมอาหารในเเต่ละวันให้น้อยลงคับ
โปรแกรมของผมก็คือ พลังงานเข้า<พลังงานออก = น้ำหนักตัวลดลง คือการควบคุมอาหารในเเต่ละวันให้น้อยลงคับ
ค่าพลังงาน BMR ของผม 2309 แคลอรี่ หลักการคือต้องทานให้น้อยกว่าให้ได้ คับ
ค่าน้ำหนักมาตราฐานของผม = 74.7 กิโลกรัม
การทานอาหารของผมก่อนลด
เช้า 7.30
จะต้องดื่มกาแฟ 3 in 1 มีค่าแคลอรี่้ = 180 แคลอรี่ ถ้าซื้อจาก 7-11 = 280 แคลอรี่
ปาท่องโก๋ หรือ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ใข่ดาว หรือ ขนมปัง แต่ละวันไม่เหมือนกัน
ปาท่องโก๋ 1 ตัว = 88 แคล
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง = 340 แคล
ใข่ดาว =120 แคล ใข่ลวก =75 เเคล
ขนมปังพาร์มเฮ้า 2 เเผ่น = 140 แคล
รวม 7.30 จะทานประมาณ 300-600 แคล
เช้า 9.00-10.00
ทานข้าวเเกง เเกงจะไม่ซ้ำกันในเเต่ละวัน อาทิเช่น เเกงเลียงแกงส้มต้มยำขาหมู ขาหมูพะโล้ หมูเปี้ยวกะทิ เเกงไก่ขมิ้น ปลาทอด หมูทอด ประมาณนี้ ไม่เหมือนกันในเเต่ละวัน ประมาณ 400-600 เเคล
เที่ยง 13.00-14.00
ทานข้าวเเกง เเกงจะไม่ซ้ำกันในเเต่ละวัน อาทิเช่น เเกงเลียงแกงส้มต้มยำขาหมู ขาหมูพะโล้ หมูเปี้ยวกะทิ เเกงไก่ขมิ้น ปลาทอด หมูทอด ประมาณนี้ ไม่เหมือนกันในเเต่ละวัน ประมาณ 400-600 เเคล
เย็น 18.00-19.00
ทานข้าวเเกง เเกงจะไม่ซ้ำกันในเเต่ละวัน อาทิเช่น เเกงเลียงแกงส้มต้มยำขาหมู ขาหมูพะโล้ หมูเปี้ยวกะทิ เเกงไก่ขมิ้น ปลาทอด หมูทอด ประมาณนี้ ไม่เหมือนกันในเเต่ละวัน หรือบางวันจะไปทานอาหารนอกบ้าน เช่นของชอบยาโยอิ ซูกิชิ โออิชิ ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง hotpot KFC พิษษ่าเเต่ละวันไม่เหมือนกัน ประมาณ 1000-1800 เเคล ในมื้อเดียว
ยังไม่รวมขนมจุกจิ๊กระหว่างวัน เช่น เลย์ เทสโต้ นมขวด น้ำเต้าหู้ ขนมหวานต่างๆที่หาซื้อได้ เเละพวกผลไม้รถเข็น ที่บ่อยๆ ก็ส้ำตำไก่ยาง ซึ้งไม่เกี่ยวกับอาหารมื้อหลักๆ ประมาณ 1000-1400
ดังนั้น ปริมาณการรับประทานอาหารของผม จะประมาณ 2700-3500 ต่อวัน
เมื่อร่างกายเผาผลาญได้เเค่ 2000-2309 จึงทำให้เกินการสะสมของอาหารที่ย่อยไม่หมด จึงเกินเป็นใขมันส่วนเกินมาสะสมอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายทำให้ผมอ้วน เชี่ยๆ มีน้ำหนักอยู่ประมาณ 112-113 ก่อนลด
ดูพุงสิ
เเขนใหญ่
พุง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)